การเตรียมตัวเบื้องต้นก่อนเรียนกับครูแบงค์

ก่อนเรียนไวโอลินออนไลน์ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ?

สำหรับผู้เรียนที่ไม่เคย เรียนไวโอลิน มาก่อน ครูแบงค์จะแนะนำให้ผู้เรียนตั้งแต่การเลือกเครื่องดนตรีที่เหมาะสมกับขนาดร่างกายของผู้เรียนแต่ละคน รวมถึงรายละเอียดอุปกรณ์ต่าง   ๆ 

การเตรียมอุปกรณ์

  1. ไวโอลิน ที่มีขนาดเหมาะกับสรีระของผู้เรียน
  2. ที่รองบ่าไวโอลิน
  3. ผ้าเช็ดหน้าสำหรับทำความสะอาดไวโอลิน
  4. ยางสน (ROsin)
  5. เอกสารประกอบการเรียน/หนังสือโน๊ตเพลง

สำหรับการเรียนออนไลน์

  1. เตรียมอุปกรณ์สำหรับการเรียนให้พร้อม
  2. ตั้งสายไวโอลิน
  3. กรณีเรียนใน Zoom ตั้งค่า Audio Setting ก่อนเข้าเรียนให้เรียบร้อย 

สำหรับการเรียนออนไลน์

  1. เอกสารประกอบการเรียน/หนังสือโน๊ตเพลง (ครูแบงค์จะส่งเอกสารประกอบการเรียนทางออนไลน์ให้กับผู้ปกครองก่อนเข้าเรียน)
  2. เตรียมเปียโนสำหรับการเรียนให้พร้อม
  3. กรณีเรียนใน Zoom ตั้งค่า Audio Setting ก่อนเข้าเรียนให้เรียบร้อย โดยครูแบงค์มีวิธีการปรับตั้งค่าทาง Youtube Krubank Studio

ประโยชน์ของการเล่นดนตรี

ทักษะการเรียนรู้การแก้ปัญหา

ไวโอลินเป็นเครื่องดนตรีที่เล่นยากที่สุดชนิดหนึ่ง เชื่อกันว่าปริมาณสมองที่ควบคุมการเคลื่อนไหวมีมากพอ ๆ กับสมองที่ควบคุมระบบประสาทการทำงานของร่างกายถือเป็นหนึ่งในความท้าทายให้กับเด็ก ๆ

ความตั้งใจและสมาธิ

การฝึกฝนที่ต้องอาศัยทั้งความตั้งใจและสมาธิเพื่อบรรลุจุดประสงค์ที่วางไว้ การซ้อมไวโอลินอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้เด็กมีสมาธิและสามารถจดจ่อได้ยาวนานมากขึ้น พร้อมกับได้พัฒนาความสามารถทางด้านทักษะไวโอลินควบคู่ไปด้วย

การแสดงทางอารมณ์

ดนตรีคือเครื่องมือที่ใช้แสดงออกทางอารมณ์ความรู้สึก และเป็นวิถีางในการแสดงออกถึงพลังความคิดสร้างสรรค์ ช่วยส่งเสริมพัฒนาการ ความคิดสร้างสรรค์ของเด็ก

พัฒนาทักษะความจำ

เพราะการจะเล่นดนตรีเป็นเพลงหนึ่งได้นั้น จะต้องใช้ความจำอยู่ไม่น้อยทั้งการจำตำแหน่งกดของไวโอลิน การจำโน็ตเพลงและถึงแม้เพลงที่เด็ก ๆ เล่นจะเป็นเพียงเพลงสั้น ๆ ง่าย ๆ แต่การเล่นเพลงเหล่านั้นก็จะช่วยพัฒนาและกระตุ้นทักษะในด้านความจำได้เป็นอย่างดี

> การสอบเกรดดนตรี <

📘การสอบทฤษฎีดนตรี 📘

>> เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของการเรียนดนตรีทุกระดับ เนื้อหาครอบคลุมตั้งแต่ระดับเริ่มต้นถึงการวิเคราะห์ดนตรีระดับสูง มีตั้งแต่ระดับเกรด 1-8 และมีการสอบระดับปริญญาได้แก่ AMus TCL (เทียบเท่าปริญญาตรี)

📙การสอบ Rock &Pop📙

>> เป็นการสอบสำหรับนักเรียนที่เรียนสายป๊อบร็อค เครื่องดนตรีที่เปิดสอบได้แก่ กีตาร์ เบส กลอง คีย์บอร์ด หรือเพลงร้องสากล มีสอบตั้งแต่ระดับ Initial- เกรด 8

การสอบดนตรี Trinity คืออะไร?

      Trinity College London เป็นบอร์ดสอบดนตรีมาตรฐานสากลจากสหราชอาณาจักร ที่ก่อตั้งขึ้นโดยสถาบัน Trinity College of Music ตั้งแต่ปี 1877 และดำเนินการสอบในหลากหลายประเทศทั่วโลกมาเป็นเวลากว่า 140 ปี ปัจจุบันการสอบของ Trinity College London มีผู้สอบกว่า 6 แสนคนในแต่ละปี ในกว่า 60 ประเทศทั่วโลก โดยมีการจัดสอบตามระดับดังนี้

📙การสอบเกรด initial – เกรด 8📙

>> สอบบรรเลงเพลง สอบเทคนิคและแบบฝึกหัด สอบทักษะการฟัง อ่านโน้ตและตอบคำถามทางดนตรี

📕การสอบใบประกาศนียบัตรการแสดง📕 แบ่งระดับดังนี้

>> Foundation Certificate /Intermediate Certificate /Advanced Certificate 

-สอบเฉพาะเพลงโดยเล่นให้ครบตามจำนวนเวลาที่กำหนดของแต่ละระดับ

-ทำโปรแกรมโน้ตเหมือนกับการแสดงคอนเสิร์ตจริง ๆ 

📗การสอบระดับปริญญากับสถาบัน Trinity📗

-Performance Diploma (ปริญญาการบรรเลงหรือขับร้อง)

-Teaching Diplomas (ปริญญาการสอนดนตรี)

-Theory Diplomas (ปริญญาทฤษฎีดนตรี) 

📘Practical Musicianship Exams

นักเรียนไม่ต้องเตรียมเพลงล่วงหน้า แต่จะเป็นการให้ปฏิบัติทันทีในเวลาที่กรรมการเริ่มสอบ โดยมีสอบเกรด 1-8

📗Performance-Only Diploma

เป็นการสอบสำหรับผู้ที่จบ Grade 8 แล้ว แต่ยังไม่ต้องการสอบ DipABRSM เต็มรูปแบบ การสอบนี้จะวัดผลเฉพาะการบรรเลงเท่านั้น ไม่มีการเขียน Programme Note หรือตอบคำถามใด ๆ

📕Diplomas

DipABRSM: เทียบเท่าอนุปริญญาทางด้านดนตรี

LRSM: เทียบเท่าปริญญาตรีเกียรตินิยมด้านดนตรี

FRSM: เทียบเท่าปริญญาโทด้านดนตรี

📙Ensemble

-เป็นการบรรเลงร่วมกับนักดนตรี 2-10 คน

-มีการสอบ 3 ระดับ มีทั้งคลาสสิคและแจ๊ส ซึ่งระดับการสอบจะมีความแตกต่างกันเล็กน้อย

สอบดนตรี ABRSM คืออะไร ?

  ABRSM ย่อมาจาก The Associated Board of the Royal Schools of Music เป็นองค์กรที่เกิดจากความร่วมมือของสถาบันดนตรีชั้นนำระดับโลก 4 แห่ง รวมตัวกันเพื่อวางแนวทางการสอบด้านดนตรีให้เป็นมาตรฐานสากล และเป็นที่น่าเชื่อถือในระดับ World Class ซึ่งสถาบันดนตรีทั้ง 4 แห่งนี้ได้แก่

• Royal Academy of Music, London
• Royal College of Music, London
• Royal Northern College of Music, Manchester
• Royal Conservatoire of Scotland, Glasgow

ABRSM ดำเนินการสอบมาแล้วกว่า 130 ปี ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางทั้งในประเทศอังกฤษ และประเทศต่างๆ ทั่วโลก ในแต่ละปีมีผู้เข้าสอบมากกว่า 630,000 คน จากมากกว่า 93 ประเทศ

📘Prep Test

เหมาะสำหรับนักเรียนที่เพิ่งเริ่มเรียนเปียโนได้ไม่นาน หรือนักเรียนที่เริ่มสอบครั้งแรก เพราะการสอบ Prep Test นั้นไม่มีการให้คะแนน ไม่มีตก ไม่มีผ่าน หลังจากสอบเสร็จ นักเรียนทุกคนจะได้รับใบ Certificate ซึ่งเต็มไปด้วยคำแนะนำ (Comments) ที่มีประโยชน์จากกรรมการสอบทันที

📗Grade1-8 Practical Exams

สอบทักษะ 4 ด้านดังนี้

1. การบรรเลงบทเพลง เพลงละ 30 คะแนน จำนวน 3 เพลง

2. Scales and Arpeggios/Broken Chords • 21 คะแนน

3. Sight-Reading 21 คะแนน

4. Aural Tests  18 คะแนน

 

📕Grade1-8 Music Theory Exams(สอบทฤษฏีดนตรี)

การสอบทฤษฎีดนตรี มีตั้งแต่เรื่องพื้นฐานของจังหวะและโน้ต ต่อไปถึงเรื่อง Harmony, Counterpoint, Composition นอกจากนี้ยังต้องมีความรู้ในด้านประวัติศาสตร์ดนตรีตะวันตกครบทุกยุค 

.......วิวัฒนาการของดนตรี ได้เดินเคียงคู่กันกับความเจริญก้าวหน้าของมนุษยชาติ ดนตรีเป็นเหตุให้มนุษย์เกิดการพัฒนา

  •  ดนตรีช่วยทำให้อารมณ์ดีและมั่นคงขึ้น

อันเนื่องมาจากดนตรีช่วยลดการตื่นตัวของสมองกลางที่เรียกว่า อะมิกดะลา Amygdala ซึ่งสมองส่วนนี้เมื่อตื่นตัวก็จะก่อให้เกิดอารมณ์ที่พุ่งพล่านและขาดการควบคุม

  • ดนตรีช่วยลดความกลัว

เนื้อร้องในบทเพลง ท่วงทำนอง จังหวะแห่งเสียง ดนตรีได้พิสูจน์ให้ประจักษ์แล้วว่ามีส่วนช่วยทำให้จิตฮึกเหิม กล้าแกร่ง ลุกขึ้นมาสู้ฝ่าฟันอุปสรรคให้กับมนุษย์เรามาตั้งแต่โบราณกาล

  • ดนตรีช่วยให้เกิดการเคลื่อนไหวออกจากพื้นที่เดิม ๆ
ดนตรีทีทั้งจังหวะ ท่วงทำนอง และระดับเสียง สิ่งเหล่านี้มีผลต่อการทำงานของสมองในการกระตุ้นการหลั่งสารเคมีต่าง ๆ ในสมอง ช่วยทำให้เกิดความตื่นตัว กระฉับกระเฉง กระชุ่มกระชวย ช่วยทำให้เกิดจิตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ สร้างแรงบันดาลใจ คิด พูด และทำในสื่งใหม่ ๆ ออกจากกรอบและพื้นที่เดิม ๆ เพื่อไปทำสิ่งใหม่ ๆ ที่ท้ายชีวิต

ดนตรีเปลี่ยนสมองได้จริงหรือไม่

ดนตรี คือ เครื่องมือที่ช่วยให้สมอง ทำงานได้ดีและมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น เมื่อสมองทำงานได้ดีขึ้น ชีวิตจึงดีขึ้น เพราะสมองคือผู้จัดการที่คอยดูแลชีวิตเรานั่นเอง

  • ดนตรีช่วยลดความเครียด

เป็นที่ยอมรับกันในสากลแล้วว่า ดนตรีเป็นเครื่องมือที่ดีมากในการช่วยลดความเครียด ไม่ว่าจะเป็นการฟังดนตรี การร้องเพลง การเล่นดนตรี หรือไม่แม้กระทั่งการร่ายรำประกอบดนตรี

  • ดนตรีช่วยทำให้เกิดการจดจ่อมีสมาธิ

จิตอยู่กับปัจจุบัน ลดการปรุงแต่งความคิดอันเป็นผลมาจาก สมองส่วนหน้า ทำงานได้ดีขึ้น เพราะความเครียดเกิดจากการที่จิตหลงไปอยู่กับอดีตหรือปัจจุบัน หมายถึงห่วงหาอาลัยอาวรณ์กับอดีตที่ผ่านมาแล้ววิตกกังวลกับอนาคตที่ยังมาไม่ถึง แต่พอดนตรีดึงจึงมาให้อยู่กับปัจจุบันได้ ความตึงเครียดต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ณ ขณะนั้นหายไป

  •  ดนตรีช่วยทำให้เกิดความผ่อนคลาย

 โดยจังหวะและท่วงทำนองของดนตรี จะช่วยทำให้ความถี่คลื่นสมองช้าลงและเป็นระเบียบเพิ่มมากขึ้น มีการทดลองโดยการวัดคลื่นสมอง EEG:Electroencephalogram พบว่าดนตรีช่วยเปลี่ยนคลื่นสมองตื่นตัวแบบ เบต้า ให้คลื่นสมองผ่อนคลายแบบ อัลฟา ได้อย่างชัดเจน

ดนตรีช่วยปั้นสมองด้วยการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ

…….การร้องเพลงใหม่ การเล่นเพลงใหม่ หรือการเล่นเครื่องดนตรีใหม่ 

ในช่วงแรกสมองต้องผ่านการเรียนรู้อย่างมาก เป็นการเชื่อมต่อการทำงานของเซลล์สมองในตำแหน่งต่าง ๆ สร้างเครือข่ายเส้นใยประสาทให้หนาตัวขึ้นและแผ่ขายออกไปได้กว้างไกลมากขึ้น เท่ากับได้เพิ่มประสิทธิภาพ ให้สมองทำงานได้เพิ่มขึ้น อธิบายกลไกง่าย ๆ ด้วยโมเดล VMA ดังนี้

Visual: การมองเห็น

ตามองเห็นไปที่เนื้อเพลงหรือตัวโน้ตดนตรีที่อยู่ตรงหน้าและส่งสัญญาการมองเห็นนั้นไปที่สมองส่วนการมองเห็นนั้นไปที่สมองส่วนการมองเห็นเพื่อแปลความหมายว่าเป็นคำอะไรเป็นโน๊ตอะไร

Motor: การเคลื่อนไหว

สมองในส่วนที่แปลความหมายการมองเห็นอันแรกนั้น ได้ส่งสัญญาณมาที่สมองส่วนควบคุมการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อให้ทำการขยับไปตามคำสั่งที่ต้องการ เช่น การขยับมือเวลาที่สีคันชัก ไวโอลิน หรือการขยับนิ้วมือขณะที่เล่นเปียโน

Auditory: การได้ยิน

เสียงที่เกิดจากการร้องออกเสียงหรือนิ้วกดเล่นเครื่องดนตรีแล้วจะถูกส่งไปที่หูและส่งต่อไปสมองส่วนการได้ยินเพื่อแปลผลว่าเป็นเสียงอะไร แล้วต่อไปที่สมองส่วนคิดวิเคราะห์ถูกต้องกับเนื้อร้อง ทำนอง จังหวะ โทน และระดับเสียงหรือไม่

ในช่วงแรกของการเรียนรู้ดนตรีใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการร้องเพลงหรือการเล่นดนตรีวงจร VMA นี้ จะถูกำการกระตุ้นกลับไปกลับมาเป็นการสร้างเครื่อข่ายการทำงานของเซลล์สมองให้แข็งแรงและขายกว้างออกไปมากขึ้นและเมื่อกฝึกฝนร้องเพลงเล่นเพลงเดิมไปนาน ๆ สมองเส้นทางนี้ก็จะเริ่มแข็งแรงชัดเจนขึ้นคราวนี้ก็ไม่ต้องดูเนื้อเพลง ไม่ต้องอ่านโน๊ตเพลง ไม่ต้องมองเครื่องดนตรี หลับตาก็ร้องได้ถูกเล่นได้ดี ดั้งนั้นถ้ายังร้องหรือเล่นเพลงเดิม การฝึกปั้นสมองสร้างเครือข่ายใยสมองเส้นทางใหม่ ๆ การลดน้อยลง คงได้แต่เพียงคลายอารมณ์เท่านั้น

บรรทัด 5 เส้น

🎼 บรรทัดห้าเส้น คือกลุ่มของเส้นตรงตามแนวนอน 5 เส้น และอยู่ห่างเป็นระยะเท่ากันเป็นจำนวน 4 ช่อง 📝 ใช้สำหรับบันทึกตัวโน้ตตามระดับเสียง ซึ่งสามารถแสดงได้ด้วยความสูงต่ำของตัวโน้ตที่ปรากฏบนบรรทัดห้าเส้น 

🔹การนับเริ่มต้นเส้นที่หนึ่งจากล่างสุด แล้วนับขึ้นมาตามลำดับจนถึงเส้นที่ห้า การนับช่องก็นับจากล่างขึ้นบนเช่นกัน ตัวโน้ตสามารถบันทึกให้คาบเกี่ยวกับเส้น หรือเขียนลงในช่องระหว่างเส้น เหนือหรือใต้บรรทัด ⭐ดังนั้นบรรทัดห้าเส้นจึงสามารถบันทึกระดับเสียงของตัวโน้ตได้ 11 ระดับ สำหรับเสียงที่สูงกว่าหรือต่ำกว่านี้ จะใช้เส้นน้อย (ledger line) เข้ามาช่วย

🖍การที่จะบ่งบอกว่าตัวโน้ต 🎶 ที่บันทึกอยู่เป็นเสียงอะไร สามารถดูได้จากกุญแจประจำหลักที่กำกับอยู่ เช่น กุญแจซอล 𝄞 ที่คาบอยู่บนเส้นที่สองโดยพื้นฐาน จะทำให้ทราบว่าโน้ตที่คาบอยู่บนเส้นที่สองเป็นเสียง ซอล หากไม่มีกุญแจประจำหลักบนบรรทัดห้าเส้น ก็จะไม่สามารถอ่านโน้ตได้ 

🔸ปกติแล้วการอ่านโน้ตจะอ่านจากซ้ายไปขวา หมายความว่าตัวโน้ตที่อยู่ถัดจากตัวก่อนหน้าต้องเล่นทีหลัง และบรรทัดห้าเส้นมักจะแบ่งเป็นห้องเพลงด้วยเส้นกั้นห้อง เปรียบเหมือนกราฟของระดับเสียงเทียบกับเวลา

กุญแจประจำหลักทางดนตรีคืออะไร ?

🎼 กุญแจประจำหลัก🗂 คือ สัญกรณ์ทางดนตรีชนิดหนึ่งที่ใช้แสดงถึงระดับเสียงของตัวโน้ตที่บันทึก กำกับไว้ที่ตำแหน่งเริ่มต้นของบรรทัด 5 เส้น ซึ่งจะเป็นตัวบ่งบอกชื่อและระดับเสียงของตัวโน้ตที่อยู่บนเส้นนั้น

🔻 ประเภทของกุญแจประจำหลัก🎶

กุญแจประจำหลักในการบันทึกดนตรีสมัยใหม่มีใช้อยู่เพียง 3 ชนิดคือ กุญแจซอล กุญแจโด และกุญแจฟา ซึ่งกุญแจแต่ละชนิดจะอ้างถึงเสียงซอล โด และฟา ตามลำดับ ตามตำแหน่งที่กุญแจนั้นได้ไปคาบเกี่ยวไว้บนบรรทัด เส้นและช่องอื่นๆ ก็จะสัมพันธ์กับโน้ตบนเส้นนั้น

🔺ความแตกต่างของกุญแจประจำหลัก 

เพื่อสามารถบันทึกดนตรีสำหรับเครื่องดนตรีและเสียงอื่นได้ทุกอย่าง แม้ว่าจะมีธรรมชาติของเสียงที่แตกต่างกัน เช่น เสียงบางอย่างอาจฟังดูแล้วสูงกว่าหรือต่ำกว่าเสียงอื่น ซึ่งเป็นการยากที่จะบันทึกเสียงทุกอย่างโดยใช้กุญแจประจำหลักเพียงชนิดเดียว เนื่องจากปัจจุบันบรรทัดมีเพียงแค่ห้าเส้น แต่อาจนำเสนอระดับเสียงของตัวโน้ตไม่เพียงพอต่อจำนวนโน้ตที่วงออเคสตราสามารถสร้างขึ้น แม้จะใช้เส้นน้อย (ledger line) มาช่วยก็ตาม 

การใช้ความแตกต่างของกุญแจสำหรับเครื่องดนตรีและเสียงแต่ละชนิด มีส่วนช่วยให้เขียนตัวโน้ตได้ง่าย ลดจำนวนการใช้เส้นน้อย และปรับคีย์ดนตรีได้ง่าย ดังนั้นกุญแจซอลจึงใช้แทนการนำเสนอเสียงสูง กุญแจโดสำหรับเสียงกลาง และกุญแจฟาสำหรับเสียงต่ำ

𝄞 กุญแจซอล📙 กุญแจประจำหลัก G (G-clef) 

📙เป็นกุญแจประจำหลักที่พบได้ทั่วไป และพบได้บ่อยที่สุด กุญแจซอลจะใช้กับเครื่องดนตรีที่มีเสียงสูง ๆ เช่น Flute, Oboe, Clarinet, Violin, Trunpet และ Horn 

📙เพลงขับร้องประสานเสียง กุญแจซอลจะถูกนำมาใช้กับแนว Soprano และ Alto เช่นเดียวกัน 

📙การเขียนกุญแจซอลให้ถูกตำแหน่ง โดยเขียนให้หางโค้ง ๆ ที่ขดเป็นวงอยู่ตรงกลาง อยู่ในตำแหน่งเส้นที่ 2 ของบรรทัด 5 เส้น เสมอ

𝄡 กุญแจโด📘 กุญแจประจำหลัก C (C-clef) 

📘หัวของกุญแจโด คือต่ำแหน่งที่เป็นเหมือนลูกศรแหลม ๆ มักเขียนบนบรรทัด 5 เส้นอยู่ 2 แบบ   

📘ถ้าเขียนให้หัวคาบเส้นที่ 3 ของบรรทัด 5 เส้น เรียกว่า กุญแจโดอัลโต มักใช้กับเครื่องดนตรี Viola

📘ถ้าเขียนให้หัวคาบเส้นที่ 4 เรียกว่า กุญแจโดเทเนอร์ มักใช้เมื่อเครื่องดนตรีเสียงต่ำ ที่เล่นโน้ตเสียงสูง ๆ เช่น ช่วงเสียงสูงๆ ของ Cello, Trombone, Bassoon และ Double Bass

𝄢 กุญแจฟา📗 กุญแจประจำหลัก F (F-clef) 

📗กุญแจฟาจะใช้กับเครื่องดนตรีที่มีโทนเสียงต่ำ เช่น Tuba, Trombone, Bassoon, Cello และ Double Bass และใช้สำหรับเสียง Bass ของคณะนักร้องประสานเสียง

📗หัวของกุญแจฟาจะต้องอยู่บนเส้นที่ 4 ของบรรทัด 5 เส้นเสมอ